บ้านทรงไหนดูแลง่ายที่สุด

บ้านที่ดูแลง่ายที่สุดจะมีลักษณะการออกแบบที่ช่วยให้การทำความสะอาดและการบำรุงรักษาง่าย โดยไม่ต้องใช้เวลาหรือค่าใช้จ่ายสูงในการดูแลแบบนั้นจะเป็นอะไรที่ดีมากๆครับ 

สำหรับใครที่กำลังจะซื้อบ้าน ลองเลือกบ้านทรงเหล่านี้ดูครับอาจจะช่วยให้การทำความสะอาดบ้าน และการดูแลบ้านง่ายกว่าเดิมมากๆครับ

บ้าน

บ้านทรงไหนดูแลง่ายที่สุด

  1. บ้านทรงโมเดิร์น (Modern House)
  • ลักษณะ: บ้านทรงโมเดิร์นมีเส้นสายที่เรียบง่ายและไม่ซับซ้อน มักจะมีการใช้วัสดุที่ดูแลง่าย เช่น คอนกรีต, เหล็ก, หรือกระจก ซึ่งทำให้บ้านดูสะอาดและไม่ซับซ้อน
  • ข้อดีในการดูแล:
    • ผนังและพื้นสามารถทำความสะอาดได้ง่าย
    • ไม่มีการตกแต่งที่ยุ่งเหยิงหรือซับซ้อน
    • วัสดุที่ใช้มักทนทานและไม่ต้องบำรุงรักษามาก
  • ตัวอย่าง: บ้านสไตล์ที่ใช้กระจกขนาดใหญ่และการออกแบบที่เปิดกว้าง
  1. บ้านทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า
  • ลักษณะ: บ้านที่มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้าเรียบง่าย ไม่มีมุมโค้งหรือการออกแบบที่ซับซ้อน
  • ข้อดีในการดูแล:
    • การทำความสะอาดหลังคาและผนังทำได้ง่าย ไม่มีมุมหรือส่วนที่ยากต่อการเข้าถึง
    • การบำรุงรักษาโครงสร้างที่เรียบง่าย ไม่ต้องการการซ่อมแซมที่ซับซ้อน
  • ตัวอย่าง: บ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยตรงไปตรงมา และไม่มีการตกแต่งที่ยากต่อการทำความสะอาด
  1. บ้านทรงกล่อง (Boxy House)
  • ลักษณะ: บ้านที่มีการออกแบบที่เป็นกล่องทรงกระชับและไม่ซับซ้อน มีเส้นตรงและมีมุมที่ชัดเจน
  • ข้อดีในการดูแล:
    • ผนังและพื้นที่ไม่ซับซ้อน ทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย
    • ไม่มีรายละเอียดหรือการตกแต่งที่ต้องดูแลมาก
    • การซ่อมแซมง่ายเพราะไม่มีกระเบื้องหรือวัสดุที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ
  • ตัวอย่าง: บ้านที่มีดีไซน์เรียบง่าย, วัสดุที่ทนทาน เช่น คอนกรีตหรือไม้เทียม
  1. บ้านชั้นเดียว (Single-story House)
  • ลักษณะ: บ้านที่มีชั้นเดียวทำให้ไม่ต้องมีการบำรุงรักษาชั้นบนที่อาจเป็นปัญหาในบ้านหลายชั้น
  • ข้อดีในการดูแล:
    • ง่ายในการทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอก
    • การซ่อมแซมระบบไฟฟ้า, ระบบประปา หรือหลังคาสามารถทำได้โดยไม่ต้องปีนขึ้นไป
    • เหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องการบ้านที่ไม่ต้องการดูแลมาก
  • ตัวอย่าง: บ้านทาวน์เฮาส์หรือบ้านเดี่ยวชั้นเดียว
บ้านดูแลง่าย
  1. บ้านที่ใช้วัสดุทนทานและดูแลง่าย
  • ลักษณะ: การเลือกวัสดุที่ง่ายต่อการบำรุงรักษา เช่น การใช้ไม้เทียม, เหล็กทนทาน, หรือวัสดุสังเคราะห์ที่ไม่ต้องการการดูแลพิเศษ
  • ข้อดีในการดูแล:
    • วัสดุเหล่านี้ทนทานต่อสภาพอากาศ และไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อย
    • ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ต้องทำบ่อยๆ เช่น การทาสีใหม่หรือการเคลือบวัสดุ
  • ตัวอย่าง: บ้านที่ใช้ผนังเหล็กหรือวัสดุไม้เทียมที่ทนทานต่อการใช้งาน
  1. บ้านทรงมินิมอล (Minimalist House)
  • ลักษณะ: บ้านที่มีการออกแบบโดยเน้นความเรียบง่ายและการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ข้อดีในการดูแล:
    • การตกแต่งที่น้อย ช่วยให้บ้านดูสะอาดและไม่ยุ่งเหยิง
    • ไม่ต้องใช้การตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องดูแลมาก
    • วัสดุที่ใช้มักจะเรียบง่ายและทนทาน
  • ตัวอย่าง: บ้านที่มีการตกแต่งแบบน้อยแต่มาก ใช้การออกแบบที่เป็นระเบียบเรียบร้อย

สรุป

บ้านที่ดูแลง่ายที่สุดจะเป็นบ้านที่มีการออกแบบเรียบง่าย, วัสดุที่ทนทาน, และฟังก์ชันการใช้งานที่ชัดเจน เช่น บ้านทรงโมเดิร์น, บ้านทรงกล่อง, หรือ บ้านชั้นเดียว ที่สามารถทำความสะอาดและบำรุงรักษาได้ง่าย โดยไม่ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายมากครับ

และสำหรับใครที่กำลังมองหาซื้อบ้านหรือช่างรับเหมาก่อสร้าง เรา “ไม่มี” แนะนำนะครับ แต่เรามี “หวย” แนะนำครับ อย่างน้อยมีเงินก็ช่วยให้การสร้างบ้านง่ายขึ้นครับ

ใดๆก็ตามแต่การเล่นหวยเป็นการพนันนะครับ เล่นเอาเงินไม่ได้เล่นเอามันส์นะครับ สำหรับจะเล่นยังไงให้ได้เงิน ลองเข้าไปอ่านที่บทความนะครับ Globallotto > Blog 

ส่วนทำไมต้องที่นี่ นั่นเป็นเพราะว่าที่นี่มีใบอนุญาตครับ ยังไงก็ไม่มีล็อก เพราะมีประเทศอเมริกา และอังกฤษ รับรองครับ รวมถึงไม่มีเลขอั้นแล้วก็ยกเลิกได้ฟรีครับ